ระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
๕.๕ การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย แทนตำแหน่งที่ว่าง
สรุปเรื่อง
ตามที่สภามหาวิทยาลัยมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๑๖ คน ในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ นั้น เนื่องจากนางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (วาระการดำรงตำแหน่ง ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ – ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕) ส่งผลให้กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิว่างลง ๑ ตำแหน่ง และตามข้อ ๔ ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ว่าด้วย คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๗ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ วรรคสอง ความว่า “กรรมการตาม (๔) สภามหาวิทยาลัยต้องแต่งตั้งจาก ผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ด้านการศึกษา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กฎหมาย การงบประมาณและการเงิน การบริหารงานบุคคล การปกครองส่วนท้องถิ่น การศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และด้านอื่นๆ ตามที่สภามหาวิทยาลัยเห็นสมควรจำนวนไม่น้อยกว่าสิบสองคนแต่ไม่เกินสิบแปดคน ในจำนวนนี้ให้แต่งตั้งจากบุคคลในเขตพื้นที่บริการการศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง”
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ว่าด้วยคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๗ และ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ จึงขอเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อโปรดพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตามข้อ ๗ ของข้อบังคับ ฯ ดังกล่าว ความว่า “ให้มีคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่ง ซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งประกอบด้วย
(๑) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่ง เป็นประธาน
(๒) ผู้แทนจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยจากผู้ดำรงตำแหน่งบริหาร ซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนสองคน
(๓) ผู้แทนจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยจากคณาจารย์ประจำ ซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนสองคน
(๔) ผู้แทนจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนสองคน ให้ประธานกรรมการเลือกกรรมการหนึ่งคน เป็นเลขานุการ”
ประเด็นที่เสนอ
๑. เพื่อโปรดพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ แทนตำแหน่งที่ว่าง
๒. สุดแต่จะเห็นสมควรประการใด
กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
มติที่ประชุม
...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................